Education for Success logo

Explorer posts by categories

“ทักษะการสื่อสาร” ที่จำเป็นต่อทุกสายอาชีพ

“ทักษะการสื่อสาร” ที่จำเป็นต่อทุกสายอาชีพ

“ทักษะการสื่อสาร” ที่จำเป็นต่อทุกสายอาชีพ

สวัสดีครับทุกคนนนน edu- จะพาทุกคนมาเมาท์มอยกันเรื่องหนึ่งที่ โคตรจะสำคัญเลยสำหรับทุกๆ อาชีพ นั่นก็คือ… “ทักษะการสื่อสาร” จะเรียนสายวิทย์ สายศิลป์ หรือจะเป็นเชฟ เป็นยูทูบเบอร์ เป็นหมอ เป็นทนาย ความสามารถในการสื่อสารนี่แหละที่ช่วยยกระดับให้เราโดดเด่นกว่าคนอื่น เพราะอะไรนะเหรอ? เดี๋ยววันนี้จะเล่าให้ฟัง แบบครบ จัดเต็ม ฟังแล้วเอาไปใช้ได้จริงแน่นอน!


1. ทักษะการสื่อสารคืออะไร และทำไมถึงสำคัญ (Introduction to Communication Skills)

ก่อนอื่นขอเท้าความเล็กน้อย “การสื่อสาร” หรือ Communication เนี่ย ก็คือศิลปะของการส่งสาร อันหมายถึงข้อมูล ความคิด หรือความรู้สึกจากเราไปสู่คนอื่น แล้วก็รวมถึงการรับข้อมูลจากผู้อื่นด้วยนะครับ ไม่ว่าจะพูด อ่าน เขียน หรือใช้ภาษากายก็ยังนับเป็นการสื่อสารทั้งหมด

แต่ทำไมมันถึงสำคัญ?

  • ทุกอาชีพต้องคุยกัน! ชีวิตจริง เราคงไม่ไปนั่งหลบมุมเงียบๆ เราต้องประชุม ต้องประสานงาน ต้องมีลูกค้า หรือพูดคุยกับเพื่อนร่วมงาน
  • ทักษะการสื่อสารที่ดีทำให้ชีวิตง่ายขึ้นแบบสุดๆ ทั้งเรียน ทั้งทำงาน หรือแม้แต่เรื่องความรักก็ตาม
  • ใครที่มีสกิลสื่อสารเด่นชัด มักจะดูน่าเชื่อถือ และก็ได้เปรียบในการสร้างความประทับใจแรกพบด้วยนะ

2. ทำงานเป็นทีมให้นุ่มนวลขึ้น (Teamwork and Collaboration)

ลองนึกภาพนะครับว่า เราต้องทำโปรเจกต์เป็นกลุ่ม แต่ไม่มีใครรู้เลยว่าใครต้องทำอะไรบ้าง หรือไม่กล้าถาม ไม่กล้าคุย จบเลยครับ โปรเจกต์นั้นเละเทะแน่นอน!

  1. แบ่งหน้าที่ชัดเจน (Clear Roles) : ถ้าเราสื่อสารแบบปังๆ ทุกคนก็เข้าใจว่าต้องทำอะไร ใครเป็นหัวหน้าทีม ใครต้องหาข้อมูล ใครเขียนสรุป
  2. เปิดรับฟังความเห็น (Feedback Loop) : ถามความคิดเห็นเพื่อนร่วมทีม ควรฟังเสียงทุกคน เพื่อได้แก้ไขให้ตรงจุด
  3. เคลียร์ปัญหาด้วยการพูด (Conflict Resolution) : ถ้ามีอะไรขัดใจก็เปิดอกคุยแบบจริงใจ แต่สุภาพนะครับ อย่าปล่อยให้ค้างคาอยู่ในใจ เพราะมันจะระเบิดในภายหลัง

ประโยชน์การสื่อสารกับทีม

  • ทีมแข็งแรง ส่งงานทันเวลา ไม่ต้องมาทะเลาะกันตอนใกล้เดดไลน์
  • เพื่อนร่วมงานรักเรา เพราะเราไม่ทำให้ใครสับสน เพราะมีความชัดเจนตั้งแต่แรก

3. สร้างความมั่นใจและความเป็นมืออาชีพ (Building Confidence and Professionalism)

เคยเป็นไหมครับ พอเราพูดอะไรไม่ค่อยเก่ง หรือเวลาเจอผู้ใหญ่แล้วตื่นเต้น มือเย็น ใจสั่น พูดติดๆ ขัดๆ มันก็เสียความมั่นใจไปเลย ใช่ไหมล่ะ? ทักษะการสื่อสารจะช่วยให้เรายืนอย่างมั่นใจมากขึ้น

  1. พูดพรีเซนต์ให้เนียน (Presentation Skills) : ไม่ว่าจะพรีเซนต์หน้าห้องสมัยเรียน หรือพรีเซนต์หน้าบอร์ดบริหารตอนทำงาน ถ้าเราฝึกพูดซ้ำๆ ชัดๆ เราจะดูเป็นมือโปร
  2. ภาษากายก็สำคัญ (Body Language) : ส่งสายตา ขยับศีรษะเล็กน้อย ประกอบกับท่าทีที่เป็นมิตร จะทำให้คนเชื่อถือและรู้สึกว่าเรา “มีความพร้อม”
  3. ฝึกฟังอย่างตั้งใจ (Active Listening) : การตั้งใจฟังแล้วถามคำถามกลับ แสดงว่าเราให้เกียรติคนอื่น พอเราจริงจังกับสิ่งที่อีกฝ่ายพูด เขาก็จะรู้สึกว่า “เออ คนนี้น่าทำงานด้วยนะ”

ประโยชน์จากการสร้างความมั่นใจ

  • เราจะโดดเด่นตั้งแต่ยื่นใบสมัครงานมหาวิทยาลัย ไปจนถึงตอนที่เป็นพนักงานใหม่ในบริษัท
  • เจอใครก็กล้าทัก กล้าคุย เปิดโอกาสให้มีคอนเนคชั่นใหม่ๆ

4. เพิ่มพลังแก้ปัญหาและตัดสินใจ (Problem-Solving Abilities)

บ่อยครั้งนะครับ ที่ปัญหาเกิดขึ้นไม่ใช่เพราะงานมันยาก แต่เพราะ… “เราไม่คุยกันให้ชัดเจนแต่แรก!” สุดท้ายเลยเข้าใจผิด สั่งงานผิด เหนื่อยกันไปเป็นแถบ

  1. ถามอย่างชัดเจน (Asking Clarifying Questions) : ถ้าสงสัยอะไรก็ควรถามเลย อย่าปล่อยให้คิดเอง เพราะบางทีเพื่อนก็คิดอีกแบบ เราก็ดันเข้าใจอีกแบบ
  2. วิเคราะห์ฟีดแบ็ก (Analyzing Feedback) : ทุกคนมีมุมมองต่างกัน ถ้าเราเปิดใจรับความคิดเห็น ก็จะเห็นว่ามีทางแก้อีกเพียบ
  3. เสนอไอเดียแบบเป็นขั้นเป็นตอน (Proposing Solutions) : การสื่อสารที่ดีคืออธิบายให้เห็นภาพ คนฟังก็จับประเด็นง่าย ไม่ต้องงมโข่ง

ประโยชน์ของการปัญหา

  • งานเสร็จเร็วขึ้น เพราะรู้ทันทีว่าอะไรผิดพลาดตรงไหน
  • ไม่ต้องมานั่งปวดหัวทีหลัง เมื่อทุกคนเข้าใจตรงกันตั้งแต่แรก

5. ก้าวหน้าในอาชีพและสร้างความสัมพันธ์ (Career and Networking)

ในชีวิตการทำงาน ใครพูดคุยประสานงานเก่ง ย่อมได้เปรียบ ช่วยให้การเลื่อนตำแหน่งง่ายขึ้น หรือแม้แต่การหาพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจก็ไหลลื่น!

  1. สร้างความประทับใจแรก (First Impressions) : การยิ้ม ทักทาย ชวนคุย เรื่องเล็กๆ อย่าง “วันนี้อากาศร้อนเนอะ” อาจนำไปสู่คอนเนคชั่นดีๆ ก็เป็นได้
  2. อธิบายตัวเองสั้นๆ ได้ใจความ (Elevator Pitch) : ถ้าเจอผู้ใหญ่ที่มีเวลาน้อย ต้องพูดให้สั้น กระชับ ว่าเราเป็นใคร ทำอะไร มีจุดเด่นอะไร
  3. ติดตามผล (Follow-Up) : อย่าปล่อยให้การติดต่อหายไป ส่งอีเมลหรือข้อความทักทายเป็นครั้งคราว จะดียิ่งขึ้นถ้ามีความคืบหน้ามาอัปเดต

ประโยชน์กับความสัมพันธ์

  • สร้างสายสัมพันธ์ (Networking) ไว้ใช้ในอนาคต ทั้งหางานใหม่ หรือร่วมมือทำโปรเจกต์ใหญ่
  • มีคนซัพพอร์ตเมื่อเกิดปัญหา เพราะเรารักษาความสัมพันธ์ได้ดี

6. สร้างความเข้าใจและความเห็นอกเห็นใจ (Empathy and Emotional Intelligence)

ทักษะการสื่อสารยังช่วยให้เราเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น หรือที่เรียกกันว่า “การมีจิตใจที่เอาใจเขามาใส่ใจเรา” ถือเป็นสกิลสำคัญอีกอย่างหนึ่ง

  1. ตั้งใจฟังมากกว่าพูด (Active Listening) : อย่าพูดแค่เรื่องของเรา พอใครเล่าอะไรก็ตั้งใจฟัง และให้กำลังใจ
  2. พูดจาเห็นอกเห็นใจ (Constructive Response) : เช่น “ขอบคุณที่บอกนะ เราเข้าใจความรู้สึกนี้เลย” เพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานจะรับรู้ว่าเราแคร์และใส่ใจ
  3. ลดการปะทะ (Conflict Reduction) : พอเราเข้าใจอีกฝ่าย เราจะไม่โมโหง่าย และกล้าคุยเพื่อแก้ปัญหาแบบสันติ

ประโยชน์ของการเข้าใจผู้ที่สื่อสารด้วย

  • บรรยากาศในทีมเป็นกันเอง น่าทำงานด้วย
  • ลดดราม่าและความขัดแย้งลงได้เยอะ

7. เคล็ดลับฝึกทักษะการสื่อสารในชีวิตประจำวัน (Practical Steps to Improve Your Communication Skills)

มาดูวิธีฝึกกันหน่อย บอกเลยว่านำไปใช้ได้ทันที!

  1. อ่านและเขียนเยอะๆ (Read and Write Regularly) : ลองอ่านหนังสือ นิตยสาร หรือบทความที่เราชอบ จะได้คลังศัพท์และแนวคิดใหม่ๆ แล้วถ้าเขียนไดอารี่ทุกวันก็จะช่วยให้เรียบเรียงคำเก่งขึ้น
  2. ลองพูดในที่สาธารณะ (Practice Public Speaking) : หากลุ่มเพื่อน หรือเข้าชมรมที่ต้องใช้การพูด นี่แหละช่วยลดความตื่นเต้นได้ดีเลย
  3. ฟังอย่างตั้งใจ (Learn to Listen) : เวลาคุยกับใคร ให้สมองโฟกัสที่คำพูดของเขา อย่าเพิ่งรีบคิดคำตอบจนลืมฟัง
  4. ขอความเห็นบ่อยๆ (Request Feedback) : เพื่อนก็ได้ พ่อแม่ก็ได้ ให้เขาช่วยคอมเมนต์ว่าเราพูดยังไงบ้าง ติดขัดตรงไหน
  5. หัดดูตัวอย่างดีๆ (Observe Good Communicators) : ดูพิธีกรหรือนักพูดเก่งๆ แล้วจดบันทึกว่าเขาใช้น้ำเสียง ท่าทาง แบบไหน
  6. ใส่ใจกับภาษากาย (Be Mindful of Non-Verbal Cues) : ลองตรวจสอบตัวเองว่าหน้าตาเราเครียดเกินไปไหม ยืนไขว้ขาหรือเปล่า พยายามผ่อนคลายบ้างครับ

8. บทสรุป: ทักษะการสื่อสารเป็นสกิลพื้นฐานตลอดชีพ (Conclusion: Communication as a Lifelong Skill)

เอาเป็นว่า ย้ำกันชัดๆ ทักษะการสื่อสารไม่ใช่อะไรที่ฝึกกันสองสามวันแล้วจบ แต่มันคือ “สกิลชีวิต” ที่จะติดตัวเราไปตลอด จะเป็นเด็ก ม.ปลาย นักศึกษา หรือทำงานแล้ว ก็ยังต้องใช้หมด ทุกวันก็เป็นโอกาสให้เราได้ฝึก

ข้อดีของการสื่อสารเจ๋งๆ

  • อธิบายไอเดียได้เคลียร์ คนรอบข้างเข้าใจง่าย
  • เสริมบุคลิกภาพและภาพลักษณ์ให้ดูโปร
  • แก้ปัญหาได้ไว เพราะรู้จักตั้งคำถามให้ถูกจุด
  • สร้างคอนเนคชั่นใหม่ๆ ที่อาจส่งผลดีในอนาคต

สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคนลองนำเทคนิคไปใช้กันเลย ล้มเหลวไม่เป็นไร พูดติดอ่างบ้างก็ยังดีกว่าเงียบแล้วพลาดโอกาสทองไปนะครับ! ซ้อมเยอะๆ ลองสื่อสารให้บ่อย อย่ากลัวที่จะผิด เมื่อทำบ่อยๆ มันจะค่อยๆ สั่งสมกลายเป็นนิสัย

Education for Success เชื่อว่า ใครที่ฝึกสื่อสารดีๆ จะได้เปรียบชัวร์ ทั้งในการเรียน มหาวิทยาลัย แล้วก็การงานในอนาคตด้วย ขอแค่เรากล้าเปิดปาก กล้าฟัง กล้าเรียนรู้ เท่านี้ก็พร้อมขยับเข้าใกล้ความสำเร็จเข้าไปอีกก้าวแล้วครับ!

พูดไปก็ฟินไป วันนี้ edu- ขอตัวไปฝึกสื่อสารกับเพื่อนๆ ต่อ ถ้าอยากลองฝึกก็ไปซ้อมคุยหน้ากระจก หรือลองอัดคลิปพูดลงโซเชียลดู ขำๆ สนุกๆ แต่ได้ประโยชน์เต็มๆ แล้วเจอกันใหม่ครั้งหน้า สวัสดีค้าบบบ!

profile image of Saifa

Saifa

สายฟ้า (Sai Fa) is a writer based in Bangkok. He's interested in all things tech, science, photography, and games related.

Read all posts of Saifa